มาตรา ๒๒ การจัดการศึกษาต้องยืดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือ
ว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ
( จากความข้อนี้สอดคล้องกับแนวคิดของContructivism)
มาตรา ๒๓ การจัดการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้อง เน้นความสำคัญทั้งความรู้คุณธรรม
(จากการจัดการเรียนรู้แบบนี้สอดคล้องกับแนว Contructivism เพราะผู้เรียนจะได้ใช้ความรู้เดิม
มาแก้ไขปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียน)
มาตรา ๒๔ การจัดกระบวนการเรียนรู้จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัด
ของผู้เรียนส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และ อำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ มี การประสานความร่วมมือกับบิดา มารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกัน พัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
( หน้าที่เหล่านี้คือแนวปฏิบัติของครูผู้จัดการเรียนรู้ในแนวคิดของ Constructivism )
มาตรา ๒๕ รัฐต้องส่งเสริมการดำเนินงานและการจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบ
( แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่สูงตามแนวคิดของConstructivism)
มาตรา ๒๖ ให้สถานศึกษาจัดการประเมินผู้เรียนโดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การ
สังเกตพฤติกรรมการเรียนการร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน
( การประเมินที่ดีจะต้องประเมินแบบ 360 องศา )
มาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อความ
เป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ การดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อ
การศึกษาต่อ
มาตรา ๒๘ มุ่งหมายพัฒนาคนให้มีความสมดุลทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงาม
และความรับผิดชอบต่อสังคม
(เห็นด้วยกับมาตรานี้เพราะผู้เรียนจะเกิดตระหนักวิชาการมากขึ้น)
มาตรา ๒๙ สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาระหว่างชุมชนและชุมชนกับโรงเรียน
มาตรา ๓๐ ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธภาพ รวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอน
สามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา
( สอดคล้องการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น